สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย การสร้างความมั่นคงของระบบไอทีคือภารกิจสำคัญ

สหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นสถาบันการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกรู้จักการประหยัดและการออมทรัพย์ รวมถึงให้บริการทางการเงินแก่สมาชิก ด้วยเหตุนี้ “สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด” จึงเป็นองค์กรที่มีความสำคัญ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของพนักงานในองค์กร CAT และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดตั้งเพื่อให้บริการและให้คำปรึกษา และส่งเสริมการออมแก่พนักงานซึ่งเป็นสมาชิก รวมถึงให้บริการด้านสวัสดิการต่างๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของสมาชิก

เพื่อให้ธุรกิจของสหกรณ์ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยในรูปแบบต่างๆ มาประยุกต์ใช้งาน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง นอกเหนือจากการจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมทางการเงินลงในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาประมวลผลอย่างรวดเร็ว ช่วยให้การวางแผนและบริหารจัดการการเงิน เพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิก ความมีเสถียรภาพของข้อมูลและระบบไอทียังเป็นสิ่งที่สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย ภายใต้การดูแลของคุณพายัพ ไตรยวงค์ ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด (สอ.กสท.) ให้ความสำคัญ

“เทคโนโลยีไอทีมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้การดำเนินงานของสหกรณ์ทำได้ง่าย สะดวก และมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ช่วยให้สามารถบริการสมาชิกได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีข้อมูลด้านการเงินที่เป็นปัจจุบัน สามารถช่วยสมาชิกวางแผนการเงินในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการ” คุณพายัพกล่าวว่า “เหนืออื่นใด การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญกับสหกรณ์ไม่แพ้กัน เนื่องจากหนึ่งในภารกิจหลักของสหกรณ์คือให้บริการด้านการเงิน ดังนั้นความปลอดภัยของข้อมูลและการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากการทำงานไม่ราบรื่น หรือข้อมูลเกิดความเสียหายก็จะส่งผลถึงความพึงพอใจของสมาชิก ความน่าเชื่อถือและสถานการณ์ดำเนินงานของสหกรณ์เองด้วย”

นี่จึงเป็นที่มาของ “โครงการศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและสำรองระบบคอมพิวเตอร์ของ สอ.กสท. (Disaster Recovery Center :DRC)” โครงการซึ่งถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการทำงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นก็ตาม

อุ่นใจทุกสถานการณ์ด้วยการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

เพื่อช่วยให้สหกรณ์ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและปลอดภัย สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จึงเลือกใช้บริการการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management) จากมืออาชีพอย่าง NT cyfence ซึ่งก่อประโยชน์มากมายให้กับสหกรณ์และสมาชิก “นอกเหนือจากภารกิจการให้บริการทางการเงินแก่สมาชิกแล้ว สหกรณ์เองก็ต้อง
มีกรอบการปฏิบัติงานตามมาตรฐานขององค์กร ซึ่งบริการจาก NT cyfence ช่วยให้สหกรณ์มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นไปตามมาตรฐาน ช่วยให้สร้างความมั่นคงในการปฏิบัติงานให้แก่องค์กร ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ภาระงานต่างๆ ของพนักงานก็จะลดลง ทำให้มีเวลาในการเอาใจใส่และให้บริการแก่สมาชิกมากขึ้นตามไปด้วย” คุณพายัพกล่าว

ภายใต้วัตถุประสงค์หลักขององค์กร คือการมุ่งเน้นในการบริหารกิจการทางด้านการเงินให้มีความมั่นคงปลอดภัย ดังนั้นการผลักดันโครงการ DRC นี้ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญของ สอ.กสท. นอกจากนี้สหกรณ์ออมทรัพย์มีการปฏิบัติตาม “ระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ว่าด้วยมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายในและการรักษาความปลอดภัยสำหรับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลปี พ.ศ. 2553” ที่มีข้อกำหนดให้ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศมีการสำรองข้อมูลเพื่อรองรับการประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ความเป็นมาของโครงการ

สอ.กสท. ได้ริเริ่มจัดทำโครงการ DRC โดยความช่วยเหลือจาก NT cyfence มาแล้วเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ถึงปี พ.ศ. 2559 ล่าสุดสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย ยังคงมอบความไว้วางใจ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพและคุณภาพการให้บริการ พร้อมทั้งการดูแลอย่างมืออาชีพในการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management) โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด ได้มีมติเช่าใช้บริการศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและสำรองระบบคอมพิวเตอร์กับ CAT ต่อเนื่องเพิ่มเติมถึงปี พ.ศ. 2564 รวมเป็นระยะเวลาอีก4 ปี เพื่อให้ศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและสำรองระบบคอมพิวเตอร์สามารถดำเนินการสำรองข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพการใช้งานมากยิ่งขึ้น
คุณพายัพกล่าวเสริมว่า “หากไม่มีแนวทางการปฏิบัติจากบริการการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจของ NT cyfence การปฏิบัติตามระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ฯ ดังกล่าว ถือเป็นงานที่ยุ่งยากสำหรับพนักงานของสหกรณ์ เพราะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางด้านระบบคอมพิวเตอร์หลายประการ คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของ NT cyfence ช่วยลดภาระของเราไปได้มาก ทำให้เราสามารถทุ่มเทกับภารกิจด้านการวางแผนการเงินต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิกได้อย่างเต็มที่”

การลงทุนที่คุ้มค่า

แน่นอนว่าการลงทุนเพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการรองรับเหตุฉุกเฉินและการสำรองระบบคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกนั้น ต้องใช้งบประมาณในการลงทุน แต่หากจะมองความคุ้มค่าการลงทุนเทียบกับความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น “ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งยังไม่นับรวมถึง ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากเราไม่มีมาตรการวางแผนการป้องกันที่ดีพอ หากเกิดผลกระทบต่อความต่อเนื่องในการทำงานหรือข้อมูลสูญหาย ย่อมเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย” คุณพายัพกล่าว “นอกจากนี้ความคุ้มค่าในมุมมองของการสูญเสียโอกาสหรือสูญเสียภาพลักษณ์การดำเนินธุรกิจของ สอ.กสท. นั้น อาจประเมินมูลค่าเป็นตัวเงินได้ยาก แต่หากเกิดผลกระทบนั่นหมายความว่าการดำเนินธุรกิจสหกรณ์อาจหยุดชะงักการให้บริการหรือไม่สามารถให้บริการต่อได้ ซึ่งหมายความว่าการลงทุนในโครงการ DRC ย่อมคุ้มค่าในการลงทุนอย่างแน่นอน”